หน้าแรก   ประวัติ   หน่วยงานในสังกัด   นโยบายบริหาร ติดต่อ

ฝ่ายงานค้นหากู้ภัย และยุทธวิธีตำรวจ กองบินตำรวจ
 
ภาพถ่ายอันทรงคุณค่า
โครงสร้างองค์กร
ผลงาน
ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร บ.ตร.
ความรู้/บทความ
คู่มือปฏิบัติงาน
มุมดาวน์โหลด
ระเบียบ/คำสั่ง/หนังสือเวียน
ประกาศกองบินตำรวจ
เฮลิคอปเตอร์ค้นหาและกู้ภัย
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงบริหาร
ผลสำรวจ
นิรภัยการบิน
ร้องทุกข์/ร้องเรียน
รายงานประชุม
APPLICATION
ติดต่อและแจ้งข้อเสนอแนะ
ชมรมนักบินตำรวจ
 
ฐานข้อมูลอุปกรณ์ค้นหากู้ภัย
แบบสอบถามความพึงพอใจในการให้บริการอากาศยานกองบินตำรวจ
ระบบเชื้อเพลิงอากาศยาน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
บริษัทการบินไทย จำกัด
กรมอุตุนิยมวิทยา
หาทิศทางและความเร็วลม
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร
ค้นหาที่หมาย
Elevated Helipad
ระบบรายงานสถานการณ์วิกฤติ
งานค้นหาและช่วยเหลืออกากาศยานประสบภัย บ.ตร.
ระบบรายงานสถานะภารกิจการบิน
 
881287
นับตั้งแต่วันที่
1 กรกฎาคม 2552
 
3 พฤศจิกายน 2568
ทีมค้นหากู้ภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยอากาศยาน ขอเป็นหนึ่งในการบริการในสถานการณ์วิกฤติอย่างทันท่วงที และเป็นมาตรฐาน... Kajohnyuth Anannab ADMIN
ความรู้/บทความ
FOG(หมอก)
หมอก คือ หยดน้ำเล็กๆหรือเกล็ดน้ำแข็ง แขวนลอยอยู่ในอากาศพร้อมกับเคลื่อนที่กดต่ำ จนมองไม่เห็นพื้น เป็นสภาพอากาศอันตรายอย่างยิ่งชนิดหนึ่งและมีอยู่ตลอดไปที่นักบินทหารบกจะ ต้องเผชิญ
               หมอก หมายถึง เมฆที่ปกคลุมผู้ตรวจอากาศตั้งแต่ผิวพื้น มีทัศนวิสัยน้อยกว่า 1,000 เมตร มีฐานต่ำกว่า 50 ฟุต แต่ถ้ามีฐานฐานตั้งแต่ 50 ฟุตเหนือพื้นดิน เรียกว่า เมฆ เป็นเมฆชนิดเมฆแผ่นหรือ stratus clouds หมอกอาจแบ่งออกจากหมอกแดด (Haze) โดยความชื้นและสี คือหมอกจะมีความชื้นมากและหนาแน่นทำให้หมอกมีสีเทา หมอกเป็นสภาพอากาศอันตรายมาก โดยเฉพาะการวิ่งขึ้นและการร่อนลงของอากาศยาน เนื่องจากหมอกจำกัดการมองเห็นพื้นนั่นเอง ตลอดจนสามารถปิดบังสิ่งกีดขวางได้เป็นอย่างดี หมอกอาจจะไม่เหมือนสภาพอากาศอันตรายอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตามหมอกอาจเป็นสิ่งสำคัญเพียงบางส่วนระหว่างทำการบินในเส้นทาง บินเท่านั้น ความรู้เกี่ยวกับหมอก เช่นชนิดชองหมอก การก่อตัว และการสลายคัว จะสามารถทำให้นักบินวางแผนการบินได้อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้น
              การก่อตัวของหมอก (Fog Formation)
                ปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้หมอกก่อตัวคือ
                     1. High relative humidity อากาศมีความชื้นสัมพัทธ์สูง ความชื้นสัมพัทธ์นี้เป็นหลักสำคัญสิ่งแรกในการก่อตัวของหมอก ดังนั้นการกลั่นการเปลี่ยนแปลงสถานะอื่น จะไม่เกิดขึ้นนอกเสียจากจะมีความชื้นสัมพัทธ์เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยสภาพธรรมชาติเป็นต้นเหตุทำให้เกิดความชื้นสูงหรือการอิ่มตัว(Saturation) อยู่แล้ว ซึ่งเป็นกระบวนการนำไปสู่การเกิดหมอกด้วย ตัวอย่างเช่น การกลายเป็นไอทำให้เกิดการวมตัวกันของความชื้นในอากาศ หรือการเย็นตัวลงของอากาศจนถึงอุณหภูมิจุดน้ำค้าง เหล่านี้เป็นนกระบวนการทำให้เกิดหมอก ค่าความชื้นสัมพัทธ์สามารถหาได้จากการ รายงานข่าวสภาพอากาศประจำชั่วโมง การพยากรณ์การเกิดหมอก โดยการกำหนดความแตกต่างของอุณหภูมิอากาศกับอุณหภูมิจุดน้ำค้าง หมอกมักไม่ค่อยเกิดเมื่ออุณหภูมิอากาศกับอุณหภูมิจุดน้ำค้างต่างกันมากกว่า 2.2 องศาเซลเซียส แต่หมอกจะเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิอากาศกับอุณหภูมิจุดน้ำค้างต่างกันน้อยกว่า 1.1 องศาเซลเซียส
                2. Light wind ลมอ่อนคือน้อยกว่า 7 นอต โดยทั่วไปกระแสลมพัดเบาๆจะช่วยเอื้ออำนวยให้หมอกก่อตัวได้เป็นอย่างดี
                3. Condensation Nuclei  หมายถึงแกนกลั่น เช่น Smoke และ Salt particles ที่ลอยอยู่ในอากาศ เมื่อมีความชื้นเข้าไปเกาะรอบๆสิ่งเหล่านี้ จะทำให้ความชื้นเกิดการกลั่นตัวเป็นละอองไอน้ำเล็กๆขึ้น ในพื้นที่ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมหมอกเกิดได้ทั้งๆที่อุณหภูมิอากาศโดยเฉลี่ย สูงกว่าอุณหภูมิจุดน้ำค้าง             
           การสลายตัวของหมอก (Fog Dissipation)
           หมอกมักสลายตัวเมื่อ ความชื้นสัมพัทธ์ลดลงระหว่างที่ความชื้นลดลงนี้หยดน้ำเล็กๆหรือเกล็ดน้ำแข็ง จะกลายเป็นไอและในเวลาต่อมา ก็จะมองไม่เห็นความชื้นเหล่านี้อีก นอกจากนั้น กระแสลมแรงและความร้อนยังเป็นสาเหตุทำให้ความชื้นลดลงด้วย
           กระแสลมแรงเป็นสาเหตุทำให้เกิดอากาศไหลเวียนที่ระยะสูงในชั้นที่มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นตามระยะสูง ( Invertion layer) ทำให้ความชื้นที่มีอยู่เข้าไปผสมกับอากาศอุ่นแต่เป็นอากาศแห้ง การผสมกันนี้แผ่กระจายออกไปเป็นบริเวณกว้าง ความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างอากาศกับอุณหภูมิจุดน้ำค้างมีมากขึ้น ในที่สุดหมอกก็สลายไป แต่ Stratus clouds อาจยังคงมีอยู่เหนือกระแสอากาศที่ยกตัวขึ้นไปได้
           ความร้อนที่เกิดจากการแผ่รังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ ทำให้อากาศร้อนขึ้น หมอกจึงสลายตัวไปอย่างรวดเร็วหลังจากพระอาทิตย์ขึ้น
 
การแบ่งชนิดของหมอก      หมอกแบ่งออกเป็น 4 ประเภท
            1. หมอกที่เกิดจากการแผ่รังสีความร้อน (Radiation Fog)
            2. หมอกที่เกิดจากอากาศไหลทับพื้นผิวที่เย็นกว่า (Advection Fog)
            3. หมอกที่เกิดจากอากาศไหลขึ้นไปตามลาดเขา (Up slops Fog)
            4. หมอกในแนวปะทะ (Frontal Fog)
 
            1. Radiation Fog หมอกที่เกิดจากการแผ่รังสีความร้อน(F    ig15-1)หมอกชนิดนี้ก่อ ตัวขึ้นหลังจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า พื้นดินจะคายความร้อนออกเป็นลักษณะการแผ่รังสีความร้อนกลับสู่บรรยากาศ  ความร้อนจึงถูกสะสมไว้ในตอนกลางวัน ในเวลาเช้าตรู่อุณหภูมิพื้นดินลดลงมากกว่า 11องศา เซลเซียส ดังนั้นในเวลากลางคืนอุณหภูมิจุดน้ำค้างจะเปลี่ยนแปลงเพียง 2-3 องศาเซลเซียสเท่านั้น ความแตกต่างของอุณหภูมิจุดน้ำค้างกับอุณหภูมิอากาศลดลง ขณะเดียวกันอุณหภูมิอากาศลดลงด้วย โดยการสัมผัสกับพื้นดินที่เย็น ถ้าการแผ่รังสีความร้อนทำให้อากาศเย็นตัวลงได้เพียงพอและมีสภาพเงื่อนไข อื่นๆช่วยเอื้ออำนวยให้เกิด หมอกที่เกิดจากการแผ่รังสีความร้อนนี้ก็จะก่อตัวขึ้นทันทีเมื่อ  
                     1. ท้องฟ้าแจ่มใส
                     2. อากาศมีความชื้นสูง
                     3. ลมอ่อน คือน้อยกว่า 7 นอต
            สภาพเหล่านี้เป็นสภาพปกติเหนือพื้นดินบริเวณความกดอากาศสูง ผลก็คือ หมอกมักจะเกิดขึ้นเป็นหย่อมๆ
            2. Advection Fog
                 2.1 สาเหตุของการเกิดหมอกชนิดนี้เกิดจากการเคลื่อนตัวของอากาศอุ่นความชื้น สูง(Warm moist air) ไปบนพื้นที่ผิวที่เย็นกว่าปกติ มักจะเกิดตามแนวชายฝั่งที่มีอุณหภูมิพื้นดินและพื้นน้ำมีความแตกต่างกัน อย่างมาก ถ้าอุณหภูมิอากาศต่ำกว่าอุณหภูมิจุดน้ำค้าง หมอกจะก่อตัวขึ้น Advection Fog ก่อตัวขึ้นภายใต้สภาพเหล่านี้ อาจจะปกคลุมเป็นบริเวณกว้างและอาจเกิดได้ตลอดทั้งวันทั้งคืนจนกว่าจะถูกแทน ที่ด้วยมวลอากาศแห้ง หมอกชนิดนี้จึงสลายไป
                  2.2   ถ้า Advection Fog ก่อตัวเหนือผิวน้ำ จะถูกเรียกชื่อว่า Sea Fog อากาศที่มาจากพื้นที่ที่อุ่นกว่าจากทะเล เมื่อเย็นตัวลงและอิ่มตัวหมอก จะก่อตัวขึ้นตามชายทะเลและบนฝั่งทะเล
              2.3   ขณะที่ Advection Fog เคลื่อนตัวสู่พื้นดินระหว่างฤดูหนาว ซึ่งพื้นดินเย็นกว่า เมื่ออากาศสัมผัสพื้นดินที่เย็น จะทำให้อากาศเกิดการอิ่มตัวนำไปสู่การเกิดหมอกปกคลุมตลอดทั้งวันได้หรือมี ความเร็วลม 10-15 นอต
                 Upslope Fog
                  หมอก ชนิดนี้จะก่อตัวขึ้นเมื่อ moist stable air พัดขึ้นไปตามพื้นลาดของภูมิประเทศ เมื่ออากาศยกตัวขึ้นแล้วเย็นตัวลงโดยการขยายตัวขณะเดียวกันความกดบรรยากาศลด เมื่อการขยายตัวแผ่ออกไปก็จะเกิดการเย็นตัวลงถึงอุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิจุด น้ำค้าง Upslope Fog จะก่อตัวขึ้น ความเร็วต้องมีกำลังมากพอที่จะทำให้หมอกชนิดนี้ก่อตัวขึ้นตามลาดของ ภูมิประเทศได้อย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าความเร็วลมมีกำลังแรงมากๆ หมอกอาจจะถูกยกตัวขึ้นจากพื้น กลายเป็นเมฆ   Stratus ระดับต่ำ ปกคลุมเต็มท้องฟ้า
                  Valley Fog
                   หมอก ชนิดนี้จะเกิดในช่วง เวลาเย็นๆ โดยอากาศเย็นที่อยู่บริเวณพื้นที่ที่ระดับสูงกว่า เคลื่อนตัวกดต่ำลงมายัง พื้นที่ที่ต่ำกว่า หรือบริเวณหุบเขา ขณะเดียวกันอากาศบริเวณหุบเขา จะค่อยๆเย็นลงเมื่ออุณหภูมิลดลงถึงอุณหภูมิจุดน้ำค้าง หมอกจะก่อตัวขึ้นในบริเวณหุบเขา ขณะที่ระดับสูงขึ้นไปอากาศแจ่มใส เพดานหมอกและทัศนวิสัยถูกจำกัดแต่เฉพาะบริเวณหุบเขาเท่านั้น
                   Ice Fog
                   เมื่ออากาศใกล้ผิวพื้นอิ่มตัว ในบริเวณที่มีอากาศเย็นจัดหมอกจะก่อตัวเป็นเกล็ดน้ำแข็ง มากกว่าที่จะเป็นหยดน้ำที่อุณหภูมิประมาณ -25 องศาเซลเซียสและอุณหภูมิต่ำกว่าไอน้ำที่ระเหยขึ้นไปจะกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ทันที โดยไม่ผ่านกระบวนการกลายเป็นของเหลว ( Water vapor sublimates into ice crystals without passing through a liquid stable) อากาศที่อยู่ภูมิภาคเย็นจัดปราศจาก Impurities แกนกลั่นที่จะให้ไอน้ำไปเกาะก็จะมีไม่เพียงพอที่จะก่อให้เกิดหมอกขึ้น ได้  ดังนั้นอากาศจะเย็นลงและอิ่มตัวอย่างรวดเร็ว (Supersaturated) โดยไม่มีหมอกก่อตัวขึ้น
                     Evaporation Fog
                      หมอกชนิดนี้เกิดขึ้นโดยการเพิ่มความชื้นเข้าไปในอากาศ แบ่งเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆคือ
          1.Frontal Fog   ปกติจะเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ เป็นระบบของแนวปะทะ Frontal Fog จะก่อตัวขึ้นเมื่อ Precipitation ที่เป็นของเหลว เป็นอากาศบริเวณมหาสมุทรเขตร้อน ตกลงไปเหนือด้านหน้าแนวปะทะ ฝนที่ตกลงไปนี้จะระเหยเป็นไอ รวมกับอากาศจากขั้วโลกซึ่งเป็นอากาศเย็นที่อยู่ด้านล่างข้างหน้าแนวปะทะ การระเหยเป็นไอของฝนที่ตกลงไปนี้เป็นการเพิ่มไอน้ำให้กับอากาศเย็นจากแถบ ขั้วโลกที่เคลื่อนตัวลงมายังเขตร้อน ทำให้อากาศเย็นมีอุณหภูมิจุดน้ำค้างเพิ่มสูงขึ้นไปเท่ากับอุณหภูมิอากาศ (ปกติอุณหภูมิอากาศจะลดต่ำลงไปหาอุณหภูมิจุดน้ำค้าง) จากนั้นอากาศเย็นจะเกิดการอิ่มตัวและเกิดหมอกในแนวปะทะก่อตัวขึ้น หมอกชนิดนี้ปกติจะเกิดขึ้นกับแนวปะทะอากาศอุ่นตลอดฤดู ซึ่งจะเกิดตั้งแต่หน้าแนวปะทะไกลออกไปถึงประมาณ 100 ไมล์ ข้างหน้าแนวปะทะมีบ่อยครั้งที่เกิดฝนและฝนละอองรวมอยู่ด้วย เมื่อมีหมอกก่อตัวขึ้นด้านหน้าแนวปะทะอากาศอุ่นจะเรียกว่า Prefrontal Fog  แต่ถ้าเกิดด้านหลังแนวปะทะก็จะเรียกว่า Postfrontal Fog
         2. Steam Fog      หมอกชนิดนี้จะก่อตัวขึ้นเมื่ออากาศเย็นที่ทรงตัวดี เคลื่อนตัวไปบนพื้นผิวน้ำที่ไม่เป็นน้ำแข็งที่มีอุณหภูมิอุ่นกว่าอากาศหลายๆ องศา ทำให้ความชื้นระเหยเข้าไปในอากาศเย็นมีเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งอากาศเย็นเกิดการอิ่มตัวและนำไปสู่การก่อตัวของหมอกเกิดขึ้น สภาพที่เอื้ออำนวยให้เกิดหมอกชนิดนี้ ปกติจะเกิดเหนือทะเลทราบ แม่น้ำ และมหาสมุทร ในฤดูหนาวขณะเกิดลมบก
                                                    
การวางแผนการบิน (Flight Planning)
             นักบินควรจะพิจารณาถึงความน่าจะเกิดหมอกขึ้นที่สนามบินปลายทางและสนามบินสำรอง โดยเฉพาะเมื่อสนามบินนั้นใกล้ชายทะเล หรือใกล้กับแหล่งน้ำ ขนาดใหญ่ ๆ ถ้าสนามบินปลายทางอยู่บนฝั่งทะเลควรจะเลือกสนามบินสำรองอยู่หลังเนินเขา หรือร่องเขาซึ่งแนวสันเขาจะป้องกันหมอกไม่ให้พัดมายังพื้นดิน แต่วิธีที่ง่ายที่สุดคือการขอคำแนะนำจากสถานีตรวจอากาศ ที่จะช่วยนักบินคาดคะเนพื้นที่และเวลาที่จะเกิดหมอก โดยดูจากอุณหภูมิอากาศกับอุณหภูมิจุดน้ำค้าง ว่ามีความแตกต่างกันเท่าใด ซึ่งโดยปกติแล้วหมอกจะเกิดเมื่อ อุณหภูมิอากาศกับอุณหภูมิจุดน้ำค้าง ห่างกันหรือแตกต่างกันไม่เกิน 4o ฟาเรนไฮ หรือ 2.2oC
 
            สภาพอื่น ๆ ที่ทำให้ทัศนะวิสัยถูกจำกัด คือ
            1. หมอกแดด (Haze) หมอกแดดคือ ผงฝุ่นและอนุภาคเล็ก ๆ ของเกลือที่แขวนตัวอยู่ในบรรยากาศ อันเป็นผลทำให้ทัศนะวิสัยถูกจำกัดไป
            2. ควัน (Smoke) คือผลอันเกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของสิ่งต่าง ๆบนพื้นโลก
            3. หมอกปนควัน (Smog) คือ อากาศที่ทรงตัวดีผสมกับควัน หรือผลของการเผาไหม้ต่าง ๆตามบริเวณโรงงานอุตสาหกรรม รวมตัวกันอยู่เบื้องล่างเมื่ออากาศมีความชื้นจึงเกิดเป็นหมอกขึ้น

ที่มา: http://www.rta.mi.th/61590u/army.school/meteology(thai)/16.Chapter%2013%20fog.doc
 
 
 
เบอร์โทรศัพท์กองบินตำรวจ
ระเบียบ/คำสั่ง/หนังสือเวียน
รายงานประชุม บ.ตร.
รายงานวิเคราะห์ข้อมูลบริหาร
ข่าวสารกองบินตำรวจ
Download คู่มือปฏิบัติงาน
Gallery น่าประทับใจ
 
  กองการสอบ...
  กองบังคับการตรวจค...
  ฐานข้อมูลหน่วยงาน...
  กองทัพบก ...
  หมากรุกไทย ...
  กองบัญชาการศึกษา...
  กองบังคับการตรวจค...
  หนังสือพิมพ์ไทยรั...
  กองทัพเรือ ...
  บช.ภ.1 ...
  Check E-mail Poli...
  ข้อมูลตำบล...
  E-COP...
  คลังความรู้ด้านกา ...
  บช.ภ.2 ...
  ค้นหาโทรศัพท์ตำรว...
  ตารางเวลาเดินรถ...
  หนังสือพิมพ์ข่าวส...
  AIP THAILAND ...
  บช.ภ.3 ...
  แปลง พิกัด GPS...
  ตารางเวลาเดินรถไฟ...
  กองสารนิเทศ ตร....
  Bell Helicopter ...
  บช.ภ.4 ...
  สำนักงานทะเบียนพล...
  แผนที่ตำรวจ...
  GoogleEarth ...
  ตรวจสภาพอากาศ ...
  บช.ภ.5 ...
  สำนักงานตรวจคนเข้...
  กองทุนบำเหน็จบำนา...
  กองทัพอากาศ ...
  เกมส์จับผิดภาพ ...
ดูข้อมูลทั้งหมด...