ความหมาย H&L
อักษร ไซโคลน อากาศผิวพื้นแสดงด้วยเส้นความกดอากาศที่เท่าเป็นวงกลม หรือเป็นวงรีรูปไข่ล้อมบริเวณที่มีความ กดอากาศสูง นั่นคือ บริเวณความกดอากาศสูงหรือแอนติไซโคลน จะเป็นบริเวณที่มีความกดอากาศสูงขึ้นจากขอบนอกเข้าสู่ศูนย์กลาง บริเวณความกดอากาศสูง หรือแอนติไซโคลนนี้จะมีกระแสลม พัดออกจากศูนย์กลางในทิศทางตามเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือ และในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาใน ซีกโลกใต้ การเคลื่อนไหวของอากาศรอบศูนย์กลางบริเวณความกดอากาศสูง หรือแอนติไซโคลน เช่นนี้ เรียกว่า H คือบริเวณความกดอากาศสูง (High Pressure Area หรือ High) หรือแอนติ(Anticyclone) คือ บริเวณที่มีความกดอากาศสูงบริเวณใกล้เคียงที่อยู่รอบๆ ในแผนที่Anticyclonic Circulation โดย ทั่วไปในบริเวณความกดอากาศสูงหรือแอนติไซโคลนลมอ่อน และลมมักสงบใน บริเวณใกล้ศูนย์กลาง มีเมฆเพียงเล็กน้อย แต่อาจมีเมฆมากกับมีฝนได้ตามขอบของบริเวณความกด กดอากาศสูง หรือแอนติไซโคลนที่อยู่ใกล้กับแนวปะทะอากาศ ในซีกโลกเหนือ ทางตะวันออกของบริเวณความกดอากาศสูงหรือแอนติไซโคลน อากาศ จะเย็นที่ผิวพื้นและเป็นลมฝ่ายเหนือพัดผ่าน เรียกบริเวณความกดอากาศสูงหรือแอนติไซโคลนชนิด นี้ว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือแอนติไซโคลนชนิดนี้ว่า แอนติไซโคลนชนิด เนื่องจากลมพัดมาจากทางใต้ แม้ว่าจะมีความชื้นสูง แต่ไม่มีฝนตก จะทำให้อากาศร้อนอบอ้าว บางครั้งเรียกว่า คลื่นความร้อน Cold High ส่วนทางด้านตะวันตก อากาศจะค่อนข้างร้อนและเป็นลมฝ่ายใต้พัดผ่าน เรียกWarm High บริเวณความกดอากาศสูงหรือCold High แผ่ลงมาเมื่อไร อากาศจะหนาวเย็น ส่วน Warm High อากาศจะร้อน(Heat Wave)
อักษร ความกดอากาศต่ำกว่าบริเวณใกล้เคียงที่อยู่รอบๆ ในแผนที่อากาศผิวพื้นที่แสดงด้วยเส้นความกด อากาศเท่าเป็นวงกลมล้อมรอบบริเวณที่ความกดอากาศต่ำ นั่นคือ บริเวณความกดอากาศต่ำ จะเป็น บริเวณที่มีความกดอากาศต่ำลงจากขอบนอกเข้าสู่ศูนย์กลาง บริเวณความกดอากาศต่ำนี้จะมีกระแส ลมพัดเข้าหาศูนย์กลางในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาของซีกโลกเหนือ และในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา ในซีกโลกใต้ การเคลื่อนไหวของอากาศรอบศูนย์กลางบริเวณความกดอากาศต่ำเช่นนี้ เรียกว่า L คือบริเวณความกดอากาศต่ำ (Low Pressure Area หรือ Low) คือ บริเวณที่มี
Cyclonic Circulation ความกดอากาศต่ำ แบ่งออกได้
ตามปกติในบริเวณความกดอากาศต่ำจะมีเมฆมากและมีฝนตกด้วย
บริเวณ2 ชนิด คือ
1. Cold Core เกิด ในแถบละติจูดสูงๆ ที่อากาศเย็น เมื่อเกิดขึ้นแล้วการหมุนเวียนจะต่อเนื่องกันความชันของความ กดจะเพิ่มมากขึ้นตามความสูง ซึ่งสัมพันธ์กับกระแสลม นั่นคือ บริเวณความกดอากาศต่ำชนิด Core ที่แกนกลางของความกดอากาศต่ำชนิดนี้ อุณหภูมิจะต่ำกว่าภายนอก และColdจะมีลมพัดแรงขึ้นตามความสูงและมักมีแนวปะทะอากาศเกิดขึ้นร่วมด้วยเสมอ
2. Warm Core หมุน เวียนจะเหมือนกับชนิด ฉะนั้นอากาศที่เย็นกว่าจะพัดเข้าแทนที่จมเข้าหาศูนย์กลาง ทำให้เกิดกระแสลมพัดเวียนเป็นก้นหอย เข้าหาศูนย์กลาง ขณะเดียวกันอากาศตรงกลางจะลอยตัวขึ้น ความชันของความกดอากาศระดับ ความสูงจะลดลง นั่นคือ ลมที่พัดเวียนเข้าหาศูนย์กลางรอบบริเวณความกดอากาศต่ำชนิด Core ที่แกนกลางของความกดอากาศต่ำชนิดนี้ อุณหภูมิจะร้อนกว่าภายนอก การCold Core และมีเฉพาะในเขตร้อนเท่านั้น เนื่องจากแกนกลางร้อนWarmความเร็วลมจะลดลงตามความสูง พายุจะรุนแรงที่สุดที่พื้นผิวเท่านั้น สูงขึ้นไปลมกำลังอ่อนลงบริเวณความกดอากาศต่ำทั้ง ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุม 2 ชนิด เกิดฝนหนักเท่าๆ กัน แต่ความเร็วลมจะต่างกันมีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษหลายชื่อด้วยกัน เช่น Intertropical Convergence Zone, Equatorial Trough แนวแคบๆ ที่ลมเทรดหรือลมค้าในเขตร้อนของทั้ง ตะวันออกเฉียงเหนือของซีกโลกเหนือกับลมค้าตะวันออกเฉียงใต้ของซีกโลกใต้ ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุมมีลักษณะเป็นแนวพาดขวางในทิศตะวันออก หรือ Monsoon Trough เป็นต้น เป็นโซนหรือ
2 ซีกโลกมาบรรจบกัน คือ ลมค้าตะวัน ตก ในร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุมจะอยู่ในเขตร้อนใกล้ๆ เส้นศูนย์สูตร และจะมีการ เลื่อนขึ้น ความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุมประมาณ หนาแน่น ฉะนั้น เมื่อร่องนี้ประจำอยู่ที่ใดหรือผ่านที่ใดก็จะทำให้ที่นั้นฝนตกอย่างหนาแน่น ได้ -ลงตามแนวโคจรของดวงอาทิตย์โดยจะล้าหลังประมาณ 1-2 เดือน ความกว้างของร่อง6-8 องศาละติจูด เป็นบริเวณที่มีเมฆมากและฝนตกอย่างหนัก |